แพลตฟอร์ม ธุรกิจยายนต์ เพื่อคนไทย

ธุรกิจยานยนต์ไทย กับการปรับตัวในยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิตอลที่อะไรๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากเรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตโลกของธุรกิจคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างที่เห็นกันมาตลอดว่ามีการ Disruption เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ก็เช่นกัน จำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดและดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง เพื่อให้มองเห็นปัญหาลองไปดูกันว่าจากยุคอนาล็อกพัฒนามาเป็นยุคดิจิตอลธุรกิจการให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “อู่” มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

Service Time การให้บริการต้องไม่จำกัดแค่เวลาทำการ

การให้บริการไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของเวลาทำการที่จำกัดเช่นเดิมอีกต่อไป ลูกค้าไม่เข้ารับบริการในเวลาทำการ 8.00 น. ถึง 17.00 น. อีกต่อไป ปัญหา ข้อสงสัย และความต้องการในการได้รับการบริการของลูกค้ามีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นอู่ในยุคดิจิตอลจะต้องให้พร้อมบริการแบบ 24/7 นั่นก็คือ พร้อมที่จะให้บริการ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน แม้งานหลายๆ อย่างจำเป็นต้องจะต้องปฏิบัติหรือลงมือทำ แต่อย่างน้อยการให้ข้อมูลหรือการตอบคำถามต้องรวดเร็วเท่าทันความต้องการของลูกค้า เพราะไม่เช่นนั้นในเวลาทำการปกติ ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจและเลือกเข้าไปรับบริการหน้าร้านกับที่อื่นได้ตลอดเวลา อู่ประจำ หรืออู่ที่อยู่ใกล้บ้าน ไม่ใช่เงื่อนไขที่สำคัญอีกต่อไป

Know How ความรู้เรื่องยานยนต์มีวันหมดอายุ

ที่ผ่านมาอู่จะต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเรื่องของเทคโนโลยียานยนต์ตลอดเวลา จากยุคของคาร์บูเรเตอร์มาเป็นหัวฉีด จากยุคของหัวฉีดแบบ Multi Injection เปลี่ยนมาเป็นยุคของ Direct Injection จากยุคของเกียร์ธรรมดาเปลี่ยนมาเป็นยุคของเกียร์อัตโนมัติ และพัฒนามาเป็นเกียร์ CVT เกียร์ Dual-Clutch แต่ละช่วงของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียานยนต์อู่จะต้องรอคอยเวลาในการเรียนรู้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ 3-5 ปี เพื่อที่จะให้บริการกับเทคโนโลยีนั้นๆ ได้ นั่นหมายความว่าองค์ความรู้ที่เคยมีจะเป็นความรู้เก่าที่มูลค่าลดลงและต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากจะต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งอีกไม่นานก็จะเป็นเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า ยังจะต้องรับมือกับการ Disruption ของยุคดิจิตอลอีกด้วย

ภายใต้เทคโนโลยียานยนต์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของบริการหลังการขายหรือศูนย์บริการรถยนต์เองก็มีการพัฒนาควบคู่ไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเชื่อมโยงข้อมูลรถและผู้ใช้รถเข้าสู่ระบบเครือข่ายของตนเอง เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้งานทั้งระยะทางและกำหนดการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งการแจ้งเตือนดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นก็เพื่อลดโอกาสในของการที่ผู้ใช้รถจะนำรถเข้ารับบริการกับอู่ทั่วไป

ดังนั้นถ้าอู่ไม่ปรับตัวจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ข้อมูลในปี 2563 มีอู่ที่ยกเลิกการจดทะเบียนไปแล้วถึง 50% และคาดว่าภายใน 3 ปีหลังจากนี้จะมีการยกเลิกการจดทะเบียนของอู่ถึง 70%

Supply Chain ตัวแทนจำหน่าย-คนกลางไม่มีอีกต่อไป

เรื่อง Supply Chain เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการ Disruption ในธุรกิจยานยนต์ได้อย่างชัดเจน ในโลกยุคเก่าที่เรื่องของข้อมูลข่าวสารตลอดจนการขนส่งยังไม่สะดวกเช่นนี้ ในวงจรธุรกิจยานยนต์ประกอบไปด้วยผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายย่อย ก่อนที่สินค้าจะถูกส่งไปยังอู่หรือผู้ประกอบการเกี่ยวกับรถยนต์ต่างๆ การตั้งราคาสินค้าจึงเป็นแบบ สินค้า + บริการ แต่ในปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลกและการขนส่งที่สะดวกมากๆ ประกอบกับการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ทำให้ผู้ใช้รถสามารถเข้าถึงสินค้าได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่ผู้ผลิตก็นำสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มเพื่อแนะนำสินค้าโดยตรงกับผู้ใช้รถ ทำให้ระบบ Supply Chain เกิดความเสียหายและเกิดผลกระทบทั้งเรื่องของต้นทุนและกำไรของอู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Consumer Trend ถ้าถูกใจอยู่ไกลแค่ไหนก็ไปหา

ในขณะที่โลกของธุรกิจยานยนต์เปลี่ยนไป ในมุมของผู้ใช้รถก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันตามวิวัฒนาการของยุคดิจิตอลนั่นคือ ผู้ใช้รถไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเข้าอู่ประจำหรืออู่ใกล้บ้านอีกต่อไป ด้วยปัจจัยเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกและรวดเร็ว ผู้ใช้รถต้องการเข้ารับบริการกับอู่ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งการให้ข้อมูลที่รวดเร็วทันใจ มีตัวอย่างผลงานให้ดูก่อนตัดสินใจ มีรีวิวหรือความเห็นจากผู้ใช้รถคนอื่น รวมถึงยังมีการเปรียบเทียบราคาทั้งค่าอะไหล่และบริการ ดังนั้นสินค้าและบริการยานยนต์ที่เป็น After Market จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 5 อย่างต่อไปนี้ เข้าถึงง่าย บริการที่ดีกว่า รวดเร็ว มีสินค้าหลากหลาย และมีค่าบริการที่ย่อมเยาว์

Transformation เปลี่ยนเองยากเกินไปก็ใช้บริการแพลตฟอร์ม

จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด หนทางรอดของธุรกิจยานยนต์ในยุคดิจิตอลคือการ Transformation เปลี่ยนแปลงรูปแบบของการให้บริการแบบเดิม ให้บริการตามเวลาเปิด-ปิดเท่านั้น ยังคงสั่งและสต็อกสินค้าแบบเดิม ยังคงใช้ช่องทางติดต่อกับลูกค้าแบบเดิม ทำการตลาดหรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่องทางเดิมๆ ไปเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในโลกยุคดิจิตอลมาใช้

แต่การที่ธุรกิจจะ Transformation หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในความเป็นจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของที่อาจจะตามไม่ทันหรือไม่มีเวลามากพอที่ทำในเรื่องนี้ ทีมงานที่มีอยู่ไม่ได้มีความเข้าใจ การจ้างทีมงานเพิ่มก็ถือว่าเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังต้องใช้เวลามาก

วิธีการที่จะนำพาธุรกิจไปสู่การ Transformation และปรับเปลี่ยนตัวเองให้แข่งขันในธุรกิจได้คือ การอาศัยเครื่องมือหรือมองหาแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่มีความเข้าใจและพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาทางด้านนี้โดยตรง

TonWeb

TonWeb