แพลตฟอร์ม ธุรกิจยายนต์ เพื่อคนไทย

เจาะลึกอุปกรณ์แก๊ส อย่างไรที่เรียกว่าได้มาตรฐาน

อุปกรณ์สำหรับรถติดแก๊สในท้องตลาดมีอยู่มากมาย หากต้องการความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถติดแก๊สควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานไม่ใช่แค่การพิจารณาจากสายตาหรือคำแนะนำจากร้านติดตั้งเท่านั้น แต่อุปกรณ์แก๊สแต่ละตัวจะมีข้อกำหนดในเรื่องของมาตรฐานกำกับอยู่ ไปดูกันว่าอุปกรณ์ที่สำคัญๆ ในระบบแก๊ส LPG จะต้องมีมาตรฐานอย่างไร

hongtonggas05

1.ถังแก๊ส — > ถังโดนัท/ถังแคปซูล

เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์แก๊ส ใช้สำหรับบรรจุเชื้อเพลิง ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากเหล็กกล้า ทำให้ตัวถังมีความปลอดภัยสูง และต้องได้มาตรฐานตามกฎหมายที่กรมขนส่งฯ เฃ่น “มอก.370/2525” และ “EC 67 R01” ซึ่งเป็นมาตรฐานยุโรปที่กฎหมายไทยให้การยอมรับ.
ส่วนมาตรฐานอื่น ๆ ที่อนุญาตให้ใช้ได้ เช่น

  • มาตรฐาน “ECE R” แต่ต้องเป็นถังแก๊สที่ติดตั้งมากับรถที่ประกอบจากต่างประเทศ
  • กรณีร้านติดตั้งแก๊สที่มีการนำเข้าถังจากต่างประเทศโดยตรง เช่น ถังโดนัท ต้องมีมาตรฐาน “ECR 67”

hongtonggas09

2.มัลติวาล์ว

ถือเป็นอุปกณ์สำคัญสำหรับถังแก๊ส LPG ทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงแก๊ส ป้องกันการรั่วซึมของท่อและสายแก๊ส รวมถึงป้องกันแก๊สรั่วกรณีเกิดอุบัติเหตุโดยวาล์วไฟฟ้า (Solenoid Valve) ซึ่รับคำสั่งจากล่อง ECU จะประกอบด้วยส่วนสำคัญคือมี“วาล์วนิรภัย” ถึง 3 ชั้น ได้แก่ วาล์วระบายแรงดันเกิน (Pressure Relief Valve), วาล์วป้องกันการไหลเกิน (Excess Flow Valve) และฟิวส์ตะกั่ว (Thermal Fuse)

  • มัลติวาล์วคุณภาพสูง คือ ผ่านมาตรฐาน “ยุโรป” E8 ECE 67R – 01 308
  • วาล์วที่จำหน่ายในไทยมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ทั้งนำเข้าจากยุโรป เกาหลี อินเดีย และจีน การเลือกใช้นอกจากสังเกตมาตรฐาน ต้องดูผู้นำเข้าจัดจำหน่ายด้วยว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่

hongtonggas06

3. หม้อต้มแก๊ส (Reducer)

ทำหน้าที่เปลี่ยนสถานะของแก๊สจากของเหลวที่มาจากถังให้กลายเป็นไอก่อนส่งเข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งต้องอาศัยพลังงานความร้อนจากรถยนต์คือน้ำจากหม้อน้ำ

  • หม้อต้มแก๊สต้องเป็นไปตามมาตรฐาน “ECR 67” ต้องดูกำลังแรงม้าของรถกี่ cc. เพื่อใช้คำนวณว่าควรใช้หม้อต้มขนาดเท่าไหร่ หรือปุกรณ์ปรับลดแรงดันที่รงรับแรงม้าของรถได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
  • หม้อต้มแก๊ส LPG จะมีอยู่ 2 ระบบ คือ 1.หม้อต้มแก๊สระบบดูด จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์ดูดแก๊สไปใช้งาน // 2.หม้อต้มแก๊สระบบแก๊สหัวฉีด จะมีแรงดันประมาณ 2 บาร์ ในการส่งแก๊สไปยังหัวฉีดแล้วจ่ายต่อไป

hongtonggas03

4.กรองแก๊ส

หนึ่งในหัวใจของการ “เช็คระยะรถติดแก๊ส” ไม่ว่าจะเป็น LPG/NGV เพราะเป็น “ด่านแรก” ในการดักเศษฝุ่น คราบน้ำมันทาร์ น้ำมันคอมเพรสเซอร์ ไม่ให้ผ่านเข้าไปที่หัวฉีด กรองแก๊สจึงมีผลในการป้องกันเครื่องยนต์สึกหรอ ควรเช็คระยะและเปลี่ยนตามกำหนด ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 20,000 กม.

  • มาตรฐานกรองแก๊สขึ้นอยู่กับวัสดุที่ผลิต ความละเอียดในการกรอง แล้วแต่รุ่น/ยี่ห้อ เช่น กรองแก๊สยี่ห้อ AC ระยะการใช้งานประมาณ 20,000 กม. กรองแก๊สยี่ห้อ Prins ระยะการใช้งานประมาณ 30,000 กม. เพื่อการันตีว่าจะไม่ทำให้หัวฉีด ระบบเครื่องยนต์ หรือระบบแก๊สเสียหาย

hongtonggas02

5.แป๊ปทองแดง (ท่อแก๊ส)

แป๊บทองแดงคือท่อทางเดินแก๊สส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างถังแก๊สไปยังหม้อต้ม ถือว่าเป็นอุปกรณ์อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญและมีผลในเรื่องของความปลอดภัย

  • ตามกฎหมายบังคับให้เป็นมาตรฐาน “ECR 67” เพราะส่วนมากผลิตจากต่างประเทศ มีการใช้ยางหุ้มทองแดงมาจากโรงงาน กันน้ำ กันการรั่วซึม คงทนแข็งแรง อายุการใช้งานนานกว่าสมัยก่อน ที่เป็นการใช้แป็ปทองแดงโล้น ๆ มาพันผ้าหรือเทป
  • หากทำไม่ถูกวิธีอาจเกิดอันตราย เวลาโดนน้ำทำให้ผุกร่อน/เป็นสนิม ซึ่งปัจจุบันกฎหมายไม่อนุญาตให้ใช้

hongtonggas04

6.ท่อยางแก๊ส (LPG Hose)

ทำหน้าที่เป็นทางเดินแก๊สระหว่างอุปกรณ์แก๊สแต่ละตัวในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งท่อยางแก๊สมีหลายเกรด มาตรฐานความปลอดภัยก็จะต่างกันตามวัสดุที่ผลิต

  • การใช้ท่อยางแก๊สที่ไม่มีคุณภาพ/เสื่อมคุณภาพ เช่น แข็ง(กรอบ) มีรอยแตกร้าว/แตกลายงา อาจจะเป็นเพราะใช้งานมานานหรือวัสดุไม่มีคุณภาพ เป็น “ความเสี่ยง” อย่างมากที่จะเกิดอันตรายจากการรั่ว สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หรือเป็นสาเหตุของไฟไหม้
  • วิธีเช็คเบื้องต้นคือทดลองหักหรืองอดู ถ้าลักษณะเริ่มแข็งตัว มีรอยแตกร้าว แสดงว่าเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนทันที
  • เพื่อความปลอดภัยควรเช็คระยะและเปลี่ยนท่อยางแก๊สตามกำหนด เช่น ทั่วไปจะเปลี่ยนทุก ๆ 50,000 กม. / 1 ปี หรือทุก ๆ 100,000 กม. / 3 ปี

hongtonggas08

7.หัวฉีดแก๊ส / รางหัวฉีด

อุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่ในการจ่ายแก๊สไปยังห้องเผาไหม้ การเลือกใช้หัวฉีดที่มีมาตรฐานจะส่งผลทั้งในเรื่องของความแม่นยำในการจ่ายเชื้อเพลิงและความปลอดภัย

  • หัวฉีด/รางหัวฉีด ถูกกำหนดให้เป็นตามมาตรฐาน “ECE R67”
  • หากใช้อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดอันตรายกับเครื่องยนต์ เพราะการจ่ายแก๊สของแต่ละสูบมักไม่เท่ากัน พอจ่ายไม่เท่ากันโอกาสที่เครื่องพังจึงค่อนข้างสู

hongtonggas07

8.ชุด ECU ของระบบแก๊ส

กล่อง ECU —> ทำหน้าที่ประมวลผลและควบคุมการฉีดแก๊สเข้าสู่ระบบ ถูกกำหนดให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎกระทรวงกำหนดไว้อยู่แล้ว หรือควรเลือกยี่ห้อหรือผู้นำเข้าที่เชื่อถือได้และมีการรับประกันหลังการขาย อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมหรือ ECU แก๊ส ประกอบด้วย

  • สายไฟในชุดแก๊ส — > ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์และเซ็นเซอร์ต่างเข้ากับกล่อง ECU แก๊ส
  • สวิท บอกปริมาณแก๊ส — > ทำหน้าที่เปลี่ยนระบบแก๊สกับน้ำมัน และบอกระดับแก๊สที่อยู่ในถัง เมื่อแก๊สหมดจะมีสัญญาณเสียงร้องเตือน แล้วจะดับระบบกลับไปใช้น้ำมันอัตโนมัติ
  • นาฬิกา แสดงผลที่ถัง — > ทำหน้าที่วัดระดับแก๊สเพื่อส่งสัญญาณกลับไปที่กล่อง ECU เพื่อทำการบอกระดับแก๊ส
  • Map Sensor — > ทำหน้าที่วัดแรงดันแก๊สที่อยู่ในรางหัวฉีดและท่อไอดี เพื่อส่งสัญญาณให้กับกล่อง ECU ซึ่งในกรณีที่ท่อแก๊สขาด แรงดันที่หัวฉีดจะลดลง แมพเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณไปยังกล่อง ECU ให้สั่งหยุดการจ่ายแก๊สทันที

สำหรับผู้ใช้การตรวจสอบอุปกรณ์แก๊สในชุดแก๊สที่เลือกใช้ อุปกรณ์บางตัวถ้าผู้ใช้รถพอมีความรู้เรื่องอุปกรณ์แก๊สอยู่บ้างอาจจะพอตรวจสอบและพิจารณาด้วยตัวเองได้ เช่น หม้อต้ม มัลติวาล์ว หรือหัวฉีด เป็นต้น พอที่จะพิจารณาด้วยตัวเองได้จากยี่ห้อและรุ่นที่ได้รับความนิยม แต่อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ถังแก๊ส ท่อทองแดง หรือท่อยาง อาจเป็นการยากที่จะทราบได้ว่าอุปกรณ์ที่ทางร้านเตรียมให้มีมาตรฐานหรือไม่ ดังนั้นควรเลือกใช้บริการกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือ

 

Add Line ติดแก๊ส

 

TonWeb

TonWeb